เต่าซูคาต้า เป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เติบโตเต็มวัยได้ถึง 3 ฟุตการเลือกกรงหรือพื้นที่เลี้ยงจึงมีความสำคัญอย่างมาก
ปัจจัยหลักๆ ในการเลือก
- ขนาด: กรงหรือพื้นที่เลี้ยงควรมีขนาดใหญ่พอที่เต่าจะเดินไปมาได้อย่างสะดวก กฎทั่วไปคือ ความยาวกรงควรมากกว่าความยาวตัวเต่า 5 เท่า และความกว้างควรมากกว่าความกว้างตัวเต่า 3 เท่า สำหรับลูกเต่า กรงขนาดเล็กก็เพียงพอ แต่ต้องขยายพื้นที่ตามขนาดตัวเต่าที่โตขึ้น
- วัสดุ: กรงควรทำจากวัสดุที่ทนทาน ปลอดภัย และกันน้ำ หลีกเลี่ยง พลาสติกบางชนิดที่อาจแตกหักได้ง่าย วัสดุที่นิยมใช้ ได้แก่ โลหะ ไม้ กระจก
- การระบายอากาศ: กรงควรมีการระบายอากาศที่ดี เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้นและแบคทีเรีย ควรมีช่องระบายอากาศหลายช่อง หรือเลือกกรงที่มีตาข่ายด้านข้าง
- แสงแดด: เต่าซูคาต้าต้องการแสงแดดเพื่อสังเคราะห์วิตามินดี กรงควรวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หากเลี้ยงในร่ม จำเป็นต้องใช้หลอดไฟ UVB เพิ่มเติม
- อุณหภูมิ: เต่าซูคาต้าชอบอากาศร้อน กรงควรมีจุดที่อุณหภูมิสูงถึง 90 องศาฟาเรนไฮต์ หลีกเลี่ยง อุณหภูมิที่เย็นเกินไป
- ความชื้น: เต่าซูคาต้าชอบสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง กรงควรมีความชื้นต่ำ หลีกเลี่ยง การใช้น้ำมากเกินไป
ตัวเลือกการเลี้ยง
- กรง: มีหลายแบบให้เลือก เช่น กรงตาข่าย กรงไม้ กรงกระจก กรงตาข่ายเหมาะสำหรับการระบายอากาศ กรงไม้ดูสวยงาม กรงกระจกช่วยให้ง่ายต่อการสังเกตเต่า
- คอก: เหมาะสำหรับเต่าโตเต็มวัย ควรมีพื้นที่กว้างขวาง ล้อมรอบด้วยรั้วที่สูงพอที่เต่าจะปีนหนีไม่ได้ พื้นควรเป็นดินหรือหญ้า
- ห้องเลี้ยงสัตว์: เหมาะสำหรับการเลี้ยงเต่าในร่ม ควรควบคุมอุณหภูมิ แสงแดด และความชื้นให้เหมาะสม
สิ่งสำคัญเพิ่มเติม
- วัสดุรองพื้น: ควรใช้วัสดุรองพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเต่า เช่น ขี้กะทิ หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง หลีกเลี่ยง พรม ทราย
- อาหารและน้ำ: ควรวางอาหารและน้ำในภาชนะที่มั่นคง ทำความสะอาดภาชนะเป็นประจำ
- ที่หลบซ่อน: เต่าควรมีที่หลบซ่อนเพื่อพักผ่อนและรู้สึกปลอดภัย
- การตกแต่ง: สามารถตกแต่งกรงหรือคอกด้วยก้อนหิน กิ่งไม้ พืชที่ปลอดภัยสำหรับเต่า