เต่าซูคาต้า ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นยักษ์ใหญ่ในบรรดาเต่าบก ด้วยขนาดที่โตเต็มวัยได้ถึง 36 นิ้ว และน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของพวกมันคือ กระดอง อันแข็งแรง หนาแน่น เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองที่คอยปกป้องร่างกาย
รูปร่างและสีสัน:
รูปร่าง: กระดองเต่าซูคาต้ามีรูปทรงโดมโค้ง นูนขึ้นเล็กน้อย บนหลังจะแบนราบ ส่วนท้องจะเว้าลง
สีสัน:
- ลูกเต่า: กระดองมีสีขาวหรือสีครีม ลายเส้นสีดำหรือน้ำตาล
- เต่าวัยรุ่น: สีกระดองจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเหลืองอ่อน ลายเส้นสีดำจะจางลง
- เต่าเต็มวัย: กระดองมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลเหลือง ลายเส้นสีดำจะแทบมองไม่เห็น
ลวดลาย:
- ลายเส้น: บนกระดองจะมีลายเส้นสีดำหรือน้ำตาลพาดขวางตามแนวขวางของกระดอง แบ่งเป็น 3 แถว
- ลายก้านใบ: บางตัวจะมีลายก้านใบสีดำหรือน้ำตาลอ่อนบนกระดอง
- ลายจุด: บางตัวอาจมีลายจุดสีดำประปรายบนกระดอง
ส่วนประกอบของกระดอง:
- แผ่นกระดอง: ประกอบด้วยแผ่นกระดองหลายชิ้นเรียงต่อกัน แบ่งเป็น 3 ส่วน
- แผ่นกระดอง : ประกอบด้วยแผ่นกระดองหลายชิ้นเรียงต่อกัน แบ่งเป็น 3 ส่วน
- ส่วนหลัง: 5 แผ่น
- ส่วนข้าง: 8 แผ่น
- ส่วนขอบ: 11 แผ่น
- สะดือเต่า: แผ่นกระดองขนาดเล็กที่ปลายหาง
- กระดูกสันหลัง: อยู่ใต้กระดอง เชื่อมต่อกับแผ่นกระดองแต่ละชิ้น
หน้าที่ของกระดอง:
- ป้องกันอันตราย: กระดองทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเต่าจากสัตว์นักล่า ภัยธรรมชาติ และอุบัติเหตุ
- ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย: กระดองช่วยดูดซับความร้อนจากแสงแดด
- กักเก็บน้ำ: กระดองช่วยกักเก็บน้ำในร่างกาย
- แสดงเพศ:
- เพศผู้: กระดองส่วนหางจะยาวกว่าเพศเมีย
- เพศเมีย: กระดองส่วนหางจะสั้นและกว้างกว่าเพศผู้
ความผิดปกติของกระดอง:
- กระดองนิ่ม: เกิดจากการขาดวิตามินดี แคลเซียม หรือฟอสฟอรัส
- กระดองปูด: เกิดจากการได้รับโปรตีนมากเกินไปหรือโตไวเกินไป
- กระดองเบี้ยว: เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือภาวะติดเชื้อ
การดูแลรักษากระดองเต่าซูคาต้า:
- อาบแดด: ให้เต่าได้รับแสงแดดอ่อนๆ เช้าวันละ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
- แช่น้ำ: แช่น้ำเต่าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- อาหาร: ให้กินอาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง
- สภาพแวดล้อม: ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม
บทสรุป:
กระดองเต่าซูคาต้าเปรียบเสมือนเอกลักษณ์และเกราะป้องกันอันล้ำค่า การดูแลรักษากระดองอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เต่ามีสุขภาพดี แข็งแรง และมีอายุยืนยาว